เปิดเพจแล้ว ลงสินค้าแล้ว แต่ยังเงียบ ไม่มีออเดอร์สั่งซื้อ ท้อแท้ เลิกขายดีกว่า

หายไปพักนึงเพราะต้องเตรียมการหลายๆ อย่างเพื่อรับมือกับสมาชิกใหม่ที่กำลังจะลืมตาดูโลกจ้า สำหรับงานซื้อ-ขายของออนไลน์เชื่อว่าหลายๆ คนคงเกิดปัญหาคาใจกันว่าทำไมทำทุกอย่างตามที่บล็อคนี้แนะนำแล้ว ยังขายไม่ได้ 

บ้างก็ถึงกับท้อแท้เลิกขายไปเลย บ้างก็คิดไปเองว่าเราอยู่ต่างจังหวัดขายยาก, บ้างก็บอกว่าเงินทุนไม่มีต้องเตรียมเงินทุนก่อน, บ้างก็บอกว่าไม่มีเวลา ลองเริ่มทำแล้วเหนื่อยกว่าเดิม ทำงานประจำก็เพลียแล้ว, บ้างก็ไม่กล้าเพราะไม่เห็นสินค้า กลัวโดนหลอก, ธุรกิจนี้ยังไปต่อได้ไหม ทำไมมีแต่คนขายเยอะแยะไปหมด, บ้างก็ขายแล้วเจอลูกค้ารายแรกตำหนิเรื่องสินค้าถึงกับท้อ และเลิกไปเลย 

หลากหลายเงื่อนไข หลากหลายเหตุผลที่สร้างขึ้นเพื่อหาทางออกให้กับตัวเอง 
ที่กล่าวมานี้เกิดขึ้นจริง กรณีจริงที่มีเข้ามาปรึกษา คำถามที่เกิดขึ้นในใจของแต่ละคน 
ณ ตอนนั้นคือ "ทำไงดี?" "ทำไมไม่มีคนซื้อเลย?" "แล้วจะต้องทำไงต่อล่ะเนี่ย?" "ทำไมคนอื่นเขาขายได้อ่ะ เขาทำไงเนี่ย?" 

คำตอบคือ ลองเดา!หรือ ทำแบบนี้ดูซิ, เห็นคนนั้นทำแบบนี้, คนนี้แนะนำมาแบบนั้นลองทำดูซิ, บ้างก็ทึกทักไปเอง: โห!!...รู้เลยทำไมถึงขายได้ก็สมาชิกแฟนเพจเยอะขนาดนี้ เป็นต้น 

มีอีกเยอะมากเลยค่ะ กับคำถาม และคำตอบที่ไม่อาจเอ่ยถึงได้ครบ ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากใจ และความคิดตัวเองที่คาดการณ์ต่างๆ นาๆ อ้อมคงต้องบอกว่าไม่ผิดค่ะที่เราจะมีความคิดฟุ้งไปแบบนั้น เป็นธรรมดา แต่อ้อมจะสรุปให้ง่ายขึ้น เกี่ยวกับหลักการที่จะทำให้ความคิดเรา และแนวทางให้ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกัการซื้อ-ขายของออนไลน์
เปิดเพจแล้ว ลงสินค้าแล้ว แต่ยังเงียบ ไม่มีออเดอร์สั่งซื้อ ท้อแท้ เลิกขายดีกว่า
เปิดเพจแล้ว ลงสินค้าแล้ว แต่ยังเงียบ ไม่มีออเดอร์สั่งซื้อ ท้อแท้ เลิกขายดีกว่า

เปิดเพจแล้ว ลงสินค้าแล้ว แต่ยังเงียบ ไม่มีออเดอร์สั่งซื้อ ท้อแท้ เลิกขายดีกว่า

สิ่งที่ทุกคนควรทำความเข้าใจก่อนเมื่อเจอปัญหา และคำถามเหล่านี้ 

"เราได้สร้างบรรยากาศ หรือองค์ประกอบที่จะทำให้มีโอกาสเปิดการขาย หรือทำให้สินค้าของเราออกไปสู่สายตาของลูกค้าหรือยัง?"

อ้อมอยากให้เราลองมองย้อนกลับมาที่ตัวเราเองก่อน สมมติว่าเราเป็นลูกค้าคนนึง เมื่อก่อนเวลาเราอยากได้ชุดหรือสินค้าสักตัว สิ่งแรกที่เราตั้งคำถามคือ หาซื้อที่ไหนดี, ร้านไหนมีสินค้าชิ้นนี้, ร้านนี้น่าจะมีหรือเปล่า ลองไปดู 
เราก็ต้องเดินทางไปที่สถานที่ๆ เราคาดหวังว่าจะมีสินค้าที่เราต้องการ นั่นหมายความถึงว่า เราเคยเจอว่าสินค้าตัวเนี่ยแหล่งนี้น่าจะมีขายที่สถานที่แห่งนี้ หรือร้านนี้น่าจะมีขาย เราถึงเดินทางไปซื้อ 

ในขณะเดียวกัน การที่เราเคยรับรู้ว่าสถานที่แห่งนี้มีสินค้าแบบนี้หรือ ร้านนี้มีสินค้าที่เราต้องการอยู่ ก็เพราะเราเคยพบเจอ เคยเห็น เคยได้ยินว่ามีการโปรโมท เคยเห็นเขาวางขาย เคยผ่านตา เคยรับรู้มาก่อน หรืออาจจะเคยใช้บริการร้านนั้นๆ สถานที่นั้นๆ มาก่อน 

เชื่อว่าหลายคนคงมองภาพออกแล้วว่าอ้อมกำลังสื่อถึงอะไร คำตอบคือ เราได้กระจายข้อมูลสินค้าของเรา โปรโมทชั่นของเรา ออกสู่สายตาคนทั่วไปแล้วหรือยัง หรือมากพอหรือยัง บางคนอาจจะตอบแบบว่า ก็แชร์แล้วนะ โพสสินค้าเสร็จก็แชร์เข้าเฟสบุ้คหรือ IG ตัวเองแล้วนะ ถ้าเราทำเพียงเท่านี้ นั่นหมายความเราคาดหวังเพียงกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการเฟสบุ้ค หรือ IG เท่านั้น แถมยังแยกย่อยไปอีกเวลาแชร์คนที่จะเห็นโพสเราก็ต้องเป็นเพื่อนเราเองด้วย 

กรณีถ้าเราโพส และแชร์เพียงเท่านี้ สิ่งที่เราควรคำนึงถึงคือ ความต่อเนื่องในการโปรโมท วิธีการโปรโมท หากเราคาดหวังให้มีโอกาสเปิดการขาย เราควรลงทุนที่จะโปรโมทร้านค้าผ่านระบบแบนเนอร์ เพื่อกระจายสินค้าของร้านออกสู่สายตาลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด และต่อเนื่องที่สุด และสิ่งสำคัญการที่เราจะลงทุน เราต้องมั่นใจว่าสินค้าของเรามีพร้อมส่งจริง และเพียงพอสำหรับโอกาสเปิดการขาย และปิดการขายในแต่ละครั้ง ไม่งั้นจะกลายเป็นว่าลงทุนไปได้แต่ยอด Like ยอดขายไม่เท่าไหร่ 

อีกนัยนึงการที่เราคิดว่าทำแล้วโปรโมทในเฟสบุ๊คและ IG แล้วแต่ไม่ได้ซื้อแบนเนอร์นะ ก็น่าจะเพียงพอแล้วหนิ 
อ้อมคงต้องบอก ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เรามีโอกาสเปิดการขายได้ค่ะ 
การที่เราเปิดร้านลงทุนลงแรงทำมาทั้งหมด แต่ทุนยังไม่มากพอที่จะไปลงโฆษณา สิ่งที่เราควรคำนึงถึงคือ การกระจายสินค้าหรือการโปรโมทในช่องทางต่างๆ ให้มากที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้ 
Social Network, เว็บประกาศทุกเว็บที่เรารู้จัก และหามาได้ ลงให้หมด, เว็บบอร์ดที่เปิดให้เราโปรโมทสินค้าทุกที่ลงให้หมด, 
ถ้ามีเว็บของตัวเองด้วย ที่ไหนมีให้แลกลิงค์แลกแบนเนอร์ไปลงให้หมด และมากที่สุด 

โห!! แล้วจะไหวเหรอเนี่ย อันนี้เราต้องยอมรับว่าอาจจะต้องเหนื่อยค่ะ แรกๆ อ้อมก็ทำเองแบบทำไปเรื่อยๆ โปรโมทไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก แต่หลังๆ มาเริ่มมีเครื่องมือในการช่วยโปรโมทกระจายสินค้าไปยังเว็บประกาศค่อยเบาแรงลงมาหน่อย 
ก็นะ อ้อมเองก็ไม่ค่อยได้ไปซื้อแบนเนอร์หรอกค่ะ เคยซื้อของเฟสบุ้คเหมือนกันแต่นานมากแล้ว ซื้อไปแค่สองเดือน ส่วนที่อ้อมขายได้ ก็เพราะการขยันโปรโมทอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อโอกาสให้มีการเปิดการขายสินค้า เช่น แชร์สาระความรู้ รูปน่ารักๆ รูปสอนแต่งหน้า รูปอัพเดทแฟชั่นสวยๆ หรือรูปรีวิวลูกค้าใส่ชุดที่ซื้อไป เป็นต้น 

การโปรโมทผ่านระบบที่กล่าวมาข้างต้น เพื่อจะทำให้สินค้าของเราออกไปสู่สายตาของกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด เหนื่อยค่ะ แต่เพื่อการต่อยอด และมองภาพระยะยาวถือว่าคุ้มมาก การซื้อแบนเนอร์ถือเป็นวิธีที่ดีเห็นผลเร็ว แต่ถ้าไม่มีการซื้ออย่างต่อเนื่องก็ส่งผลเช่นกันค่ะ ดังนั้นวิธีการโปรโมท และประกาศถือเป็นอีกช่องทางที่ไม่ควรละเลยและมองข้าม 
แอบหยอดนิดนึง คือเราจะเหนื่อยน้อยหน่อยถ้าเรามีเครื่องมือช่วยในบางขั้นตอน (เรื่องเครื่องมือถามทางเมล์ได้จ้า อธิบายในนี้ยาวแน่ๆ แต่เดี๋ยวจะมีบทความออกมาอีกทีค่ะ) ยังไม่พอค่ะ เชื่อว่ายังมีคำถามคาใจอยู่อีกแน่ๆ ต่อกันเลยค่ะ
เปิดเพจแล้ว ลงสินค้าแล้ว แต่ยังเงียบ ไม่มีออเดอร์สั่งซื้อ ท้อแท้ เลิกขายดีกว่า
เปิดเพจแล้ว ลงสินค้าแล้ว แต่ยังเงียบ ไม่มีออเดอร์สั่งซื้อ ท้อแท้ เลิกขายดีกว่า
ให้เรามองต่อไปอีกว่า ถ้าสินค้าชิ้นนั้นมีขายโดยทั่วไป การแข่งขันสูง คนขายเพียบเลย ให้มองว่าเราเป็นคนซื้อ ถ้าเราจะหาสินค้าสักตัวที่กำลังอยากได้ 

สิ่งแรกที่เราจะคิด และประมวลผลในใจ คือ ที่ไหนใกล้ที่สุด, ที่ไหนที่เรารูกจัก, ที่ไหนราคาดีชอบมีของแถม หรือที่ไหนมีโปรโมชั่น เงื่อนไขพวกนี้จะเกิดขึ้นต่อเมื่อสินค้าที่เราจะหาซื้อเป็นสินค้าที่มีทั่วไป ซื้อที่ไหนก็ได้ แต่จะดีกว่าถ้าสินค้าแบบเดียวกันแต่มีเงื่อนไขที่เราจะได้รับประโยชน์เพิ่มเติมเข้ามาอีก แน่นอนว่าเราก็จะเดินทางไปที่นั่นเพราะคุ้มกว่า แม้จะไกลสักหน่อยถ้ามันคุ้มกว่าก็ไป

 เช่นกันค่ะ การขายของออนไลน์ จริงอยู่ว่าตอนนี้มีคนขายเยอะมาก หลายคนคงคิดท้อ แต่อ้อมอยากให้คิดอีกมุมนึง นั่นแสดงว่ากระแสการซื้อขายสินค้าออนไลน์ก็เริ่มมีความนิยมมากขึ้น และนอกจากสินค้าที่เราคุ้นตา และขายกันอยู่  ในอนาคตก็อาจจะแตกแยกย่อยไปอีก ถ้าเราเห็นลู่ทางหรือสินค้าก่อนก็ได้เปรียบ 
สิ่งที่อ้อมกำลังจะสื่อให้เข้าใจกันในย่อหน้านี้คือ ความแตกต่างในเรื่อง บริการ และโปรโมชั่น ทำไมเราถึงยอมเดินทางไปไกลเพื่อซื้อสินค้าที่เราสามารถหาซื้อได้ใกล้ๆ 
ในที่นี้ไม่ได้หมายความรวมแค่ข้อเสนอโปรโมทชั่นเพียงเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึง ความแตกต่าง และจุดเด่นที่แต่ละร้านจะชูขึ้นมาเพื่อให้มีโอกาศเปิดการขายสินค้าของตัวเองได้ 

ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าถามมาเรามีการตอบกลับเดี๋ยวนั้นเลย ไม่ต้องให้ลูกค้ารอนาน นี่ก็เป็นอีกบริการนึงที่เราสามารถทำได้, บริการแจ้งสถานะสินค้าระหว่างเดินทางถึงที่หมาย ลูกค้าบางคนอาจจะไม่มีเวลารับสินค้าเอง แต่ก็อยากจะทราบว่า ณ ตอนนี้สินค้าเราถึงไหนแล้ว และจะมีคนรับสินค้าให้เราไหม สิ่งเหล่านี้ถือเป็นอีกบริการที่เราสามารถเสริมเข้าไป และชูเป็นจุดเด่นของร้านได้, บริการหลังการขายให้ลูกค้ารีวีวสินค้าที่ซื้อไปเพื่อรับส่วนลด, บริการสอบถามความพึงพอใจหลังจากลูกค้ารับสินค้าแล้ว เป็นต้น 

ยังมีอีกมากมายที่เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ และนำมาปรับใช้กับร้านขายของออนไลน์ของเราเองได้ สิ่งเหล่านี้เราสามารถหาได้จากการเดินช้อปปิ้งทั่วไป การสังเกตุ และนำกลับมาใช้ถือเป็นอีกวิธีการนึงที่จะทำให้เราสามารถแข่งกับร้านอื่นๆ ได้

เป็นยังไงกันบ้างคะ ทีนี้พอมองออกกันบ้างหรือยังว่าร้านเราที่เพิ่งเปิดใหม่ทำไมถึงยังขายไม่ได้ เราขาดองค์ประกอบอะไรไปหรือเปล่าที่จะทำให้ร้านขายสินค้าออนไลน์ของเรามีโอกาสเปิดการขายได้ ถ้าอ่านบทความนี้แล้วน่าจะเข้าใจ และมองภาพรวมของธุรกิจซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์กันได้บ้างแล้ว

อีกสิ่งหนึ่งที่อยากทิ้งท้ายเอาไว้สำหรับบทความนี้ การทำธุรกิจซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์ สำคัญมากเลยคือ "การใส่ใจในรายละเอียด" ทั้งรายละเอียดสินค้า รูปภาพ ราคา วิธีการสั่งซื้อ 

เพราะลูกค้าไม่สามารถหรือไม่มีโอกาสจับต้องสินค้าของจริงได้ ดังนั้นสิ่งที่เราควรนำเสนอให้ลูกค้าเห็น ควรชัดเจน และไม่คลุมเครือ จริงอยู่ว่า ใส่รายละเอียดเยอะเขาก็ไม่ค่อยอ่านกันหรอก แต่สิ่งเหล่านี้เราสามารถเอาไว้ใช้อ้างอิง เวลาลูกค้าถาม หรือเวลาเกิดปัญหาในตัวสินค้าได้ และยังเป็นการสร้างพฤติกรรมให้กับลูกค้าเวลาสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ควรมีการอ่าน และศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนการสั่งซื้อเพราะความเสียหายอาจจะไม่ใช่แค่คืนสินค้า นั่นหมายถึงการเสียเวลา เสียโอกาส หรือกำลังใจที่ลดลง และอาจรวมถึงค่าเสียหายที่ทำให้ลูกค้าผิดหวัง แม้ว่าเราจะน้อมรับทุกอย่างแล้วก็ตาม ฝากไว้ด้วยนะคะพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ทกๆ คน ใส่ใจในรายละเอียดเป็นสิ่งที่ดีทั้งตัวเรา และลูกค้าจ้า อ้อมขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนประสบความสำเร็จขายสินค้าได้เยอะๆ นะคะสู้ๆ จ้า



เปิดเพจแล้ว ลงสินค้าแล้ว แต่ยังเงียบ ไม่มีออเดอร์สั่งซื้อ ท้อแท้ เลิกขายดีกว่า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิธีเปลี่ยนตำแหน่งจัดเก็บโฟลเดอร์ของ GOOGLE DRIVE ในคอมพิวเตอร์

ให้ไอมาโครส่งข้อความ facebook ถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายคุณ

พรีออเดอร์คืออะไร ?