อยากขายของออนไลน์ทำไง เคล็ดลับ-แนวทาง-บอกเล่าให้เห็นภาพจากประสบการณ์จริง
ก่อนอื่นอ้อมต้องบอกก่อนว่าสิ่งที่อ้อมจะมาแนะนำเกี่ยวกับการขายของออนไลน์ หรือวิธีการขายเสื้อผ้าทางเน็ต ล้วนเป็นสิ่งที่อ้อมผ่านมา และเจอกับตัวเองมาก่อน ปัญหา และวิธีการของแต่ละคนอาจจะมีความแตกต่างกันไป แล้วแต่กรณี ก็สามารถมาแชร์กันได้เพราะสิ่งที่อ้อมผ่านมา เจอมาหากเป็นประโยชน์ อ้อมก็จะแชร์ให้ฟังแบบตรงไปตรงมา ไม่ว่าคุณจะอยู่ช่วงวัยเรียน วัยทำงาน อยากปลดล็อคชีวิตที่น่าเบื่อ เดินตามความฝันของคนอื่น การขายของออนไลน์ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่หลายๆ คนเลือกจะทำ จะเป็นการเล่นหุ้น การรับออกแบบ การรับเขียนบทความ อื่นๆ อีกมากมาย สำหรับบทความนี้อ้อมคงมาแนะนำเรื่องของการขายของออนไลน์ หรือใครที่ต้องการขายเสื้อผ้าออนไลน์ เพราะเป็นสิ่งที่อ้อมเจอมากับตัวเอง และสามารถแชร์ได้ดีกว่าแน่นอนว่า
ความคิดอ้อมสมัยก่อนไม่ใช่ในมุมที่จะเป็นแม่ค้าค่ะ เผื่อใครหลายๆ คน อาจจะเหมือนกับอ้อมก่อนหน้าที่จะเข้าสู่การเป็นแม่ค้าออนไลน์
เมื่อก่อนอ้อมเป็นพนักงานประจำค่ะ ทำงานมา 2 ที่หลักๆ ไม่ค่อยลาออกน่ะค่ะ อายุก็เลขสามละ ไม่ขอบอกละเอียดแล้วกันว่าเท่าไหร่...อาย! อิอิ อ้อมเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆ เลย ไม่เชื่อเรื่องการขายของออนไลน์ ก็อย่างที่บอกไปก่อนหน้าคะ ความคิดตอนนั้นมีเยอะกว่านั้นอีก ที่เกริ่นมาก่อนหน้าแค่น้ำจิ้ม
อ้อมเริ่มเข้าสู่ธุรกิจนี้จากคำแนะนำของแฟนค่ะ ตอนนั้นอ้อมไปทำ Amazon เริ่มจากคนไม่รู้อะไรเลย โปรแกรมเมอร์ก็ไม่เป็น จะลงเว็บฯ ก็ต้องให้แฟนทำให้ พยายามกับการทำ Amazon อยู่เกือบๆ ปี สุดท้ายก็ต้องยอม เพราะต้องบอกว่านั่งทำมือไม่ไหวจริง สู้พี่ๆ โปรแกรมเมอร์ไม่ไหว(สายปั่นเว็บฯ น่ะค่ะ) เพราะสายปั่นต้องมีความรู้พื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ในระดับนึงเลยล่ะถึงจะรอด ณ ช่วงนั้นนะ หลังจากนั้น แฟนอ้อมก็ได้แนะนำให้มาขายสินค้าออนไลน์น่าจะดีกว่ามั้ง แต่ตอนนั้นก็ยังไม่เชื่อหรอก แต่ก็ลองๆ ดู เพราะคิดในใจว่าไม่มีอะไรเสียหายหนิ ลองดูแล้วกัน
บอกก่อนว่าตอนนั้นอ้อมเองก็ยังทำงานประจำอยู่จ้า ยังไม่ออก กลัวน่ะ เงินเดือนก็ไม่ได้สูงนะคะ เอาจริงๆ เดือนชนเดือนด้วยซ้ำ ต้องอดออมสุดๆ ถึงจะมีเงินเก็บ
สิ่งแรกที่อ้อมคิดคือ จะขายอะไรดีนะ อ้อมก็ใช้วิธีคิดว่าตัวเองเป็นใคร มีอะไรเป็นทุนสำหรับเริ่มต้นบ้าง อันนี้แบบเริ่มแรกๆ เลยนะคะ
สิ่งที่อ้อมคิดมีดังนี้ค่ะ คือ เราเป็นผู้หญิง ชอบซื้อของตามตลาดนัดเดินได้ตลอด ยิ่งถ้ามีของลดราคานี่เดินจน ครบอ่ะ ร่าเริงเลยแหละ ชอบซื้อของแบบไหน เสื้อผ้า หรือเครื่องประดับ หรือเครื่องบำรุงผิว หรือเครื่องสำอาง
โดยส่วนตัวอ้อมไม่ค่อยแต่งหน้าค่ะ แต่ก็บำรุงเป็นประจำ เพราะไม่ค่อยได้ออกไปไหนเลยไม่ได้แต่ง นานๆ จะมีที ก็เลยตัดเรื่องการแต่งหน้าออกไป แล้วเครื่องประดับล่ะ ตัวอ้อมเองก็ไม่ค่อยชอบซื้อของ จุกจิก ก็เลยตัดไปอีก คิดไปคิดมาผ่านไปหนึ่งวันเต็มๆ ตอนนั้นไม่ได้นั่งคิดนะคะ เดินเล่นที่ห้างฯ และไปต่อที่ตลาดนัดประมาณนั้น เผื่อจะเกิดไอเดียบางอย่าง สุดท้ายก็มาตกอยู่ที่เสื้อผ้านี่ล่ะค่ะ
สิ่งที่อ้อมคิดต่อมาคือ เสื้อผ้าต้องเป็นของผู้หญิงแน่นอนล่ะ เพราะเราเป็นผู้หญิงจะให้ไปขายเสื้อผ้าผู้ชายก็รู้ไม่ลึกว่าเขาจะชอบไม่ชอบแบบไหน
ต่อมาก็มานั่งคิดว่าจะเอาเสื้อผ้าแบบไหนดีนะ ช่วงนั้นแฟชั่นเกาหลีกำลังมาเลย อะไรๆ ก็เกาหลี แล้วก็คิดต่อไปว่าเกาหลีสไตล์ไหนมาขายดี เพราะสินค้าแนวๆ เกาหลีก็มีเยอะ ก็มาแยกย่อยอีกรอบ
คำถามเกิดขึ้นมากมาย แต่ก็มาย้อนนึกดูอีกทีว่าสิ่งที่เราจะทำต้องเป็นสิ่งที่เราหามาแบบไม่ต้องลงทุนซื้อของมาก ก็เลยตกลงใจว่าจะเริ่มขายเสื้อผ้าเกาหลีสไตล์น่ารัก และชุดออกงานนี่ล่ะ หลังจากคิดว่าจะขายอะไรได้แล้ว
วิธีคิดของอ้อมเกี่ยวกับเรื่องเงินลงทุน คือ การที่อ้อมไม่มีเงินทุนแต่อยากขายเสื้อผ้า เราก็ต้องเริ่มจาก การเอาของเขามาขายก่อน แล้วแม่ค้าเขาจะให้เราเอามาขายเหรอ? ของเป็นเงินเป็นทองนะ! แรกๆ ก็คิดแบบนั้นจริงๆ กลัวมากเพราะไม่เคย เกือบจะล้มเลิกความตั้งใจซะแล้ว แต่!... อย่าเพิ่งตกใจค่ะมันมีทางออก
สิ่งแรกที่ทำคือ อ้อมเข้าอินเตอร์เน็ต ค้นหาคำว่า เสื้อผ้าเกาหลีออนไลน์ เลือกดูแบบ ส่วนใหญ่เขาขายแบบไหนกัน การตัดสินใจของอ้อมคือ อ้อมเลือกเอาความชอบส่วนตัว เป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจค่ะ และอีกส่วน คือเปรียบเทียบการซ้ำของสินค้าของแต่ละเว็บฯค่ะ ถ้ารูปเดียวกัน หรือคล้ายกันมีอยู่หลากหลายเว็บฯ อ้อมก็จะบันทึกไว้ว่าสินค้าแบบนั้นกำลังได้รับความนิยม สิ่งสำคัญที่น่าจะเป็นอะไรที่ไม่ควรพลาดเลยคือ ฤดูกาลค่ะ เพราะช่วงนั้นเข้าช่วงหน้าร้อนกลางๆ มาถึงช่วงปลายแล้ว ถ้าอ้อมจะเอาเสื้อผ้ามาขายคงไม่เป็นชุดกันหนาว เพราะคงขายยากมาก คิดว่าแบบนั้นค่ะ
พอได้แบบที่ชอบ อ้อมก็โทรหาคนขาย สอบถามเรื่องสินค้า และถามว่าเขารับตัวแทนจำหน่ายด้วยไหม? บางเว็บฯ อ้อมก็เข้าแฟนเพจเขาแล้วสอบ ถามทาง Message เลยค่ะ ถ้าเขารับตัวแทนจำหน่ายด้วย อ้อมก็ขอรายละเอียดข้อมูลการขาย โดยให้ส่งมาทางเมลล์ อ้อมทำแบบนี้อยู่หลายร้านเหมือนกันค่ะ เพราะตอนนั้นอ้อมคิดว่ายิ่งถามเยอะก็จะยิ่งมีข้อมูลเยอะ บางร้านแบบเหมือนกันเลยแต่ขายแพงกว่า ณ เวลานั้น อ้อมเองก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมเขาถึงขายแพงกว่า คิดแค่ว่าโห! ร้านนี้เอาเปรียบคนซื้อจัง กินส่วนต่างเยอะจริง แต่ทุกอย่างมันมีที่มาที่ไปอันนี้เพิ่งมารู้ช่วงหลังๆ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังช่วงท้ายๆ ว่าทำไม บางร้านขายแพง บางร้านขายถูก เพราะตอนนี้เราอยู่กับประเด็นเรื่องเงินทุน
สิ่งที่อ้อมถามแม่ค้าต่อไปคือ แล้วสินค้าอ้อมต้องซื้อมาสต็อคไหม หรือว่าได้ออเดอร์มาแล้วโทรแจ้งอะไรประมาณนี้ เป้าหมายคือ อ้อมจะไม่สต็อคของค่ะ เพราะเงินทุนน้อย ถ้าเขาให้เราเอามาขายได้เลย ก็เก็บรายชื่อเว็บฯเอาไว้แยกเป็นสัดส่วน
จากที่อ้อมสำรวจแบบ และรวบรวมรายชื่อเว็บฯ ได้สักระยะแล้ว หลังจากนั้นอ้อมก็เข้าไปเก็บข้อมูลเว็บฯ พวกรูปภาพ รายละเอียดสินค้า เก็บแยกไว้เป็น Folder แยกเป็นรหัสเอาไว้ ขั้นตอนนี้ใช้เวลาพอสมควร พยายามเก็บให้เยอะที่สุด เพราะคิดว่าถ้าสินค้าเรามีตัวเลือกเยอะ ร้านเราก็จะดูน่าสนใจมากขึ้นค่ะ เหนื่อยและท้อเหมือนกัน
แต่มันคือการเดินตามฝันของตัวเองให้กำลังใจตัวเองแบบว่าสู้ ๆ สู้โว้ย! อะไรประมาณนั้น
ช่วงนั้นพยายามเรียนรู้ และทำไปด้วย ผลคือไม่ประสบความสำเร็จค่ะ ก็อย่างว่า คนเราถนัดไม่เหมือนกันหนิ อีกทั้ง เพราะเป็นคนเข้าใจอะไรยากจริงๆ แต่ก็ต้องทำต่อไป ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเรื่องการตลาดคะ ก็เลยเลือกที่จะเอาเงินที่มีไปเช่าโฮส และเปิดเว็บของตัวเอง (มีทางเลือกอื่นนะคะนอกจากเปิดเว็บฯ) เพราะตอนนั้นคิดว่าถ้าเราจะขายของออนไลน์ก็ต้องมีเว็บไซน์ ก็เลยให้แฟนลงเว็บฯสำเร็จรูปให้ค่ะ แล้วก็เริ่มลงสินค้าตามปกติ อ้อมใช้เวลาศึกษาพร้อมๆ กับการลงมือทำ งานเลยค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป การลงสินค้าของอ้อมใช้เวลาเป็นเดือนเลยค่ะ ลงวันละ 4-5 ชิ้นต่อวัน อย่างที่บอกค่ะทำงานประจำด้วย กลับถึงห้องก็เหนื่อยมากแล้ว อ้อมขายสินค้าชิ้นแรกได้ช่วงเข้าเดือนที่สองค่ะ
ตอนนั้นยังไม่ได้ทำการตลาดอะไรมากมายเท่าไหร่เพราะเวลาจำกัดจริงๆ เน้นเรื่องการลงสินค้าก่อน เพราะถ้าไม่มีของก็ไม่รู้จะขายอะไร นั่ง Save รูป ลงรายละเอียดสินค้า ทำมือทุกอย่างคนเดียว เป้าหมายตอนนั้นคือต้องมีสินค้าในเว็บฯ ให้ดูเยอะสักหน่อย อาศัยความอดทน เพราะรู้ว่าสิ่งนี้ คือความฝันที่อยากมีอะไรเป็นของตัวเอง และการขายออนไลน์แบบนี้จะนำอะไรมาให้เราก็เลยมุ่งมั่นที่จะทำคะ ชีวิตช่วงนั้น วนอยู่แบบนี้อยู่สักระยะนึง พอสินค้าเริ่มมีเยอะ สินค้าก็เริ่มขายได้บ้าง เริ่มมีโทรเข้ามาบ้าง อย่างว่าเราเพิ่งเริ่มต้องบอกว่าจากจุดเริ่มต้นจริงๆ จากการดึงรูปจากร้านออนไลน์ขายส่งมา มาลงรายละเอียดก็คัดลอกเขามาแหละค่ะ
ต้องใช้เวลาในการสร้างบ้านสักระยะนึงนะคะ ถ้าฐานพร้อมอะไรก็จะง่ายขึ้นค่ะ จากนั้นก็มาต่อด้วยการโปรโมทล่ะ ถือเป็นจุดสำคัญเลย
สิ่งที่อ้อมทำคือ หาซื้อหนังสือพวกเกี่ยวกับการเปิดร้านอะไรพวกนี้ค่ะ ราคาประมาณ 200 บาทไม่เกินนั้น ตอนนั้นยังไม่มีออกมาเยอะเหมือนตอนนี้หรอก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นข้อมูลทางเทคนิคเท่านั้น แต่นั่นก็คือเป้าหมายที่อ้อมอยากได้ เพราะเรื่องเทคนิคเล็ก ๆ น้อยอ้อมไม่คอยรู้ แล้วก็คิดว่าอาจจะมีหลายๆ คนที่ขาดเรื่องนี้เหมือนกัน ไว้อ้อมจะมาแนะนำเรื่องของการเปิดแฟนเพจนะคะ
หลังจากสร้างแฟนเพจสำเร็จ ก็เริ่มลงสินค้า แต่เส้นทางก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะช่วงแรกๆ ไม่ค่อยมีออเดอร์เลย จากที่บอกมาทั้งหมดอ้อมยังไม่พูดถึงเรื่องการโปรโมทมากนัก และเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ หลังจากเปิดแฟนเพจได้สักระยะนึง ก็มีปัญหาตามมาอีกครั้งคือ เรื่องของคนที่จะเข้ามากด like แฟนเพจเรา
ตอนนั้นเงินทุนน้อย ก็ไม่อยากจะโฆษณา ก็เลยใช้วิธีหารูปการแต่งหน้า การทำผม การทำเล็บ มาโพสในแฟนเพจค่ะ พยายามให้เพจเราเป็นที่ต้องการของกลุ่มเป้าหมาย นั่นคือผู้หญิง รวบรวมอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับความสวยความงามมาโพสเพื่อเรียกสาวๆ ให้เข้ามากด like แล้วก็แชร์ผ่านหน้าเพจเราเอง เพื่อให้เพื่อน ๆ มากด like และเพื่อนอาจจะแชร์สิ่งที่เขาสนใจ พยายามอยู่นานค่ะ ช่วงแรก ๆ โพสจน งง ว่าสรุปเพจเราเป็นเพจขายของหรือเพจแชร์รูปความงาม แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะช่วงแรกๆ อ้อมวางเป้าหมายไว้ว่าต้องให้คนมากด like ที่แฟนเพจให้ได้เยอะๆ ก่อน แต่ถ้าใครมีทุนมากพออยากเอาเงินไปแรกเงินก็แนะนำให้ซื้อโฆษณา ให้คนเข้ามากด like หน้าเพจเรา เมื่อคนเข้ามาในหน้าแฟนเพจเรา เขาจะเห็น url เราที่โพสเอาไว้ แล้วกดเข้าไปดูสินค้าในหน้าเว็บฯ ต่อที่สอง หากสนใจก็จะตามมาด้วยการเจรจา และปิดงานขายต่อไป อันนี้ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับศิลปะการคุยของแต่ละท่านแล้วล่ะ แต่อ้อมจะแนะนำในสิ่งที่อาจจะเจอเหมือนที่อ้อมเจอในบทความต่อไปนะคะ
อ้อมใช้เวลาในการเก็บ like แฟนเพจอยู่จนได้ระดับหลัก 1,000 ช่วงนั้นก็เริ่มที่จะมีลูกค้าเข้ามาบ่อยขึ้น เพราะสิ่งที่อ้อมทำทุกๆ วันไม่หยุดเลย คือ นั่งอัพเดตสินค้า, คัดลอกรูปจากเว็บขายส่ง, คัดลอกรายละเอียด, โพสสินค้าที่แฟนเพจ, ค้นหารูปเกี่ยวกับความสวยความงามมาโพสเป็นเนื้อหาพิเศษในหน้าแฟนเพจเพื่อให้ลูกค้าไม่รู้สึกว่าเข้ามาในแฟนเพจ เจอแต่สินค้าอย่างเดียว ทำลูปแบบนี้เกือบๆ 1 ปีเลยค่ะ แต่จะบอกว่ามันคุ้มค่านะคะ เพราะระยะเวลาไม่นานกับการทุ่มเท ตามมาด้วยผลลัพธ์ที่อ้อมคิดว่าพอใจในระดับนึงเลยล่ะ สิ่งที่ได้คือ
 |
| อยากขายของออนไลน์ทำไง |
สิ่งแรกที่แวปเข้ามาในใจของหลายๆ คนที่อยากขายของออนไลน์ หรือต้องการขายของออนไลน์คือ
- แล้วจะขายอะไรดีล่ะ?
- อะไรที่ขาย ดีล่ะ?
- คนเขาต้องการอะไรนะ?
- ขายแล้วจะขาดทุนไหม?
- เงินทุนจะเอามาจากไหน?
- ใครจะมาซื้อของออนไลน์ล่ะ จะมีสักกี่คน
- ทั้งๆ ที่ตลาดนัดก็มี โบ้เบ้ก็มี จตุจักรก็เยอะ แถมยังส่วนของการเปิดท้ายอีก แต่ละจุดแต่ละที่มีเยอะเต็มไปหมด ความคิดพวกนี้อ้อมเองก็เคยมีมาก่อนค่ะ
ความคิดอ้อมสมัยก่อนไม่ใช่ในมุมที่จะเป็นแม่ค้าค่ะ เผื่อใครหลายๆ คน อาจจะเหมือนกับอ้อมก่อนหน้าที่จะเข้าสู่การเป็นแม่ค้าออนไลน์
เมื่อก่อนอ้อมเป็นพนักงานประจำค่ะ ทำงานมา 2 ที่หลักๆ ไม่ค่อยลาออกน่ะค่ะ อายุก็เลขสามละ ไม่ขอบอกละเอียดแล้วกันว่าเท่าไหร่...อาย! อิอิ อ้อมเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆ เลย ไม่เชื่อเรื่องการขายของออนไลน์ ก็อย่างที่บอกไปก่อนหน้าคะ ความคิดตอนนั้นมีเยอะกว่านั้นอีก ที่เกริ่นมาก่อนหน้าแค่น้ำจิ้ม
อ้อมเริ่มเข้าสู่ธุรกิจนี้จากคำแนะนำของแฟนค่ะ ตอนนั้นอ้อมไปทำ Amazon เริ่มจากคนไม่รู้อะไรเลย โปรแกรมเมอร์ก็ไม่เป็น จะลงเว็บฯ ก็ต้องให้แฟนทำให้ พยายามกับการทำ Amazon อยู่เกือบๆ ปี สุดท้ายก็ต้องยอม เพราะต้องบอกว่านั่งทำมือไม่ไหวจริง สู้พี่ๆ โปรแกรมเมอร์ไม่ไหว(สายปั่นเว็บฯ น่ะค่ะ) เพราะสายปั่นต้องมีความรู้พื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ในระดับนึงเลยล่ะถึงจะรอด ณ ช่วงนั้นนะ หลังจากนั้น แฟนอ้อมก็ได้แนะนำให้มาขายสินค้าออนไลน์น่าจะดีกว่ามั้ง แต่ตอนนั้นก็ยังไม่เชื่อหรอก แต่ก็ลองๆ ดู เพราะคิดในใจว่าไม่มีอะไรเสียหายหนิ ลองดูแล้วกัน
บอกก่อนว่าตอนนั้นอ้อมเองก็ยังทำงานประจำอยู่จ้า ยังไม่ออก กลัวน่ะ เงินเดือนก็ไม่ได้สูงนะคะ เอาจริงๆ เดือนชนเดือนด้วยซ้ำ ต้องอดออมสุดๆ ถึงจะมีเงินเก็บ
สิ่งแรกที่อ้อมคิดคือ จะขายอะไรดีนะ อ้อมก็ใช้วิธีคิดว่าตัวเองเป็นใคร มีอะไรเป็นทุนสำหรับเริ่มต้นบ้าง อันนี้แบบเริ่มแรกๆ เลยนะคะ
สิ่งที่อ้อมคิดมีดังนี้ค่ะ คือ เราเป็นผู้หญิง ชอบซื้อของตามตลาดนัดเดินได้ตลอด ยิ่งถ้ามีของลดราคานี่เดินจน ครบอ่ะ ร่าเริงเลยแหละ ชอบซื้อของแบบไหน เสื้อผ้า หรือเครื่องประดับ หรือเครื่องบำรุงผิว หรือเครื่องสำอาง
โดยส่วนตัวอ้อมไม่ค่อยแต่งหน้าค่ะ แต่ก็บำรุงเป็นประจำ เพราะไม่ค่อยได้ออกไปไหนเลยไม่ได้แต่ง นานๆ จะมีที ก็เลยตัดเรื่องการแต่งหน้าออกไป แล้วเครื่องประดับล่ะ ตัวอ้อมเองก็ไม่ค่อยชอบซื้อของ จุกจิก ก็เลยตัดไปอีก คิดไปคิดมาผ่านไปหนึ่งวันเต็มๆ ตอนนั้นไม่ได้นั่งคิดนะคะ เดินเล่นที่ห้างฯ และไปต่อที่ตลาดนัดประมาณนั้น เผื่อจะเกิดไอเดียบางอย่าง สุดท้ายก็มาตกอยู่ที่เสื้อผ้านี่ล่ะค่ะ
สิ่งที่อ้อมคิดต่อมาคือ เสื้อผ้าต้องเป็นของผู้หญิงแน่นอนล่ะ เพราะเราเป็นผู้หญิงจะให้ไปขายเสื้อผ้าผู้ชายก็รู้ไม่ลึกว่าเขาจะชอบไม่ชอบแบบไหน
ต่อมาก็มานั่งคิดว่าจะเอาเสื้อผ้าแบบไหนดีนะ ช่วงนั้นแฟชั่นเกาหลีกำลังมาเลย อะไรๆ ก็เกาหลี แล้วก็คิดต่อไปว่าเกาหลีสไตล์ไหนมาขายดี เพราะสินค้าแนวๆ เกาหลีก็มีเยอะ ก็มาแยกย่อยอีกรอบ
- ขายเสื้อยืดดีไหม?
- ขายกางเกงเหรอ?
- หรือจะขายเครื่องประดับดีนะ?
- หรือจะขายหมวกดี?
คำถามเกิดขึ้นมากมาย แต่ก็มาย้อนนึกดูอีกทีว่าสิ่งที่เราจะทำต้องเป็นสิ่งที่เราหามาแบบไม่ต้องลงทุนซื้อของมาก ก็เลยตกลงใจว่าจะเริ่มขายเสื้อผ้าเกาหลีสไตล์น่ารัก และชุดออกงานนี่ล่ะ หลังจากคิดว่าจะขายอะไรได้แล้ว
 |
| จะขายของออนไลน์ก็มามีปัญหาเรื่องเงินทุนอีก |
ปัญหาต่อมาที่เจอคือ เงินทุนค่ะ
เรามีเงินทุนไหม? อยากขายของทางเน็ต ทําไงดี ก็ต้องมีเงินทุนสิ คำถามนี้เกิดขึ้นในใจมาตลอด อย่างที่บอกค่ะตอนนั้นอ้อมทำงานประจำอยู่ เงินเดือนก็มีเก็บนิดหน่อย ย้ำว่านิดหน่อยจริงๆ อดออมสุดๆ เลยไม่ต้องพูดถึงเรื่องเงินลงทุนเลยค่ะ คือไม่ต้องแก้ตัวกันเลยถ้าพลาด ก็เลยต้องคิดเยอะหน่อย กว่าจะออกมาเป็นรูปร่างวิธีคิดของอ้อมเกี่ยวกับเรื่องเงินลงทุน คือ การที่อ้อมไม่มีเงินทุนแต่อยากขายเสื้อผ้า เราก็ต้องเริ่มจาก การเอาของเขามาขายก่อน แล้วแม่ค้าเขาจะให้เราเอามาขายเหรอ? ของเป็นเงินเป็นทองนะ! แรกๆ ก็คิดแบบนั้นจริงๆ กลัวมากเพราะไม่เคย เกือบจะล้มเลิกความตั้งใจซะแล้ว แต่!... อย่าเพิ่งตกใจค่ะมันมีทางออก
สิ่งแรกที่ทำคือ อ้อมเข้าอินเตอร์เน็ต ค้นหาคำว่า เสื้อผ้าเกาหลีออนไลน์ เลือกดูแบบ ส่วนใหญ่เขาขายแบบไหนกัน การตัดสินใจของอ้อมคือ อ้อมเลือกเอาความชอบส่วนตัว เป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจค่ะ และอีกส่วน คือเปรียบเทียบการซ้ำของสินค้าของแต่ละเว็บฯค่ะ ถ้ารูปเดียวกัน หรือคล้ายกันมีอยู่หลากหลายเว็บฯ อ้อมก็จะบันทึกไว้ว่าสินค้าแบบนั้นกำลังได้รับความนิยม สิ่งสำคัญที่น่าจะเป็นอะไรที่ไม่ควรพลาดเลยคือ ฤดูกาลค่ะ เพราะช่วงนั้นเข้าช่วงหน้าร้อนกลางๆ มาถึงช่วงปลายแล้ว ถ้าอ้อมจะเอาเสื้อผ้ามาขายคงไม่เป็นชุดกันหนาว เพราะคงขายยากมาก คิดว่าแบบนั้นค่ะ
พอได้แบบที่ชอบ อ้อมก็โทรหาคนขาย สอบถามเรื่องสินค้า และถามว่าเขารับตัวแทนจำหน่ายด้วยไหม? บางเว็บฯ อ้อมก็เข้าแฟนเพจเขาแล้วสอบ ถามทาง Message เลยค่ะ ถ้าเขารับตัวแทนจำหน่ายด้วย อ้อมก็ขอรายละเอียดข้อมูลการขาย โดยให้ส่งมาทางเมลล์ อ้อมทำแบบนี้อยู่หลายร้านเหมือนกันค่ะ เพราะตอนนั้นอ้อมคิดว่ายิ่งถามเยอะก็จะยิ่งมีข้อมูลเยอะ บางร้านแบบเหมือนกันเลยแต่ขายแพงกว่า ณ เวลานั้น อ้อมเองก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมเขาถึงขายแพงกว่า คิดแค่ว่าโห! ร้านนี้เอาเปรียบคนซื้อจัง กินส่วนต่างเยอะจริง แต่ทุกอย่างมันมีที่มาที่ไปอันนี้เพิ่งมารู้ช่วงหลังๆ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังช่วงท้ายๆ ว่าทำไม บางร้านขายแพง บางร้านขายถูก เพราะตอนนี้เราอยู่กับประเด็นเรื่องเงินทุน
สิ่งที่อ้อมถามแม่ค้าต่อไปคือ แล้วสินค้าอ้อมต้องซื้อมาสต็อคไหม หรือว่าได้ออเดอร์มาแล้วโทรแจ้งอะไรประมาณนี้ เป้าหมายคือ อ้อมจะไม่สต็อคของค่ะ เพราะเงินทุนน้อย ถ้าเขาให้เราเอามาขายได้เลย ก็เก็บรายชื่อเว็บฯเอาไว้แยกเป็นสัดส่วน
 |
| เหนื่อยเหมือนกันค่ะแต่ก็สู้เพื่ออนาคต และความฝันที่เป็นจริง |
จากที่อ้อมสำรวจแบบ และรวบรวมรายชื่อเว็บฯ ได้สักระยะแล้ว หลังจากนั้นอ้อมก็เข้าไปเก็บข้อมูลเว็บฯ พวกรูปภาพ รายละเอียดสินค้า เก็บแยกไว้เป็น Folder แยกเป็นรหัสเอาไว้ ขั้นตอนนี้ใช้เวลาพอสมควร พยายามเก็บให้เยอะที่สุด เพราะคิดว่าถ้าสินค้าเรามีตัวเลือกเยอะ ร้านเราก็จะดูน่าสนใจมากขึ้นค่ะ เหนื่อยและท้อเหมือนกัน
ปัญหาเรื่องเว็บไซน์ที่จะขายสินค้าออนไลน์
สิ่งที่เป็นปัญหาต่อมาสำหรับการขายของออนไลน์คือ ด้วยความรู้เรื่องเว็บไซต์ที่ไม่ค่อยจะมีสักเท่าไหร่ ขั้นตอนนี้อาจจะอธิบายไม่ค่อยละเอียดมากนะคะ แต่จะอธิบายแบบที่ตัวเองเคยผ่านมา |
| ปัญหาเรื่องการทำเว็บไซต์สำหรับขายสินค้าออนไลน์ |
ช่วงนั้นพยายามเรียนรู้ และทำไปด้วย ผลคือไม่ประสบความสำเร็จค่ะ ก็อย่างว่า คนเราถนัดไม่เหมือนกันหนิ อีกทั้ง เพราะเป็นคนเข้าใจอะไรยากจริงๆ แต่ก็ต้องทำต่อไป ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเรื่องการตลาดคะ ก็เลยเลือกที่จะเอาเงินที่มีไปเช่าโฮส และเปิดเว็บของตัวเอง (มีทางเลือกอื่นนะคะนอกจากเปิดเว็บฯ) เพราะตอนนั้นคิดว่าถ้าเราจะขายของออนไลน์ก็ต้องมีเว็บไซน์ ก็เลยให้แฟนลงเว็บฯสำเร็จรูปให้ค่ะ แล้วก็เริ่มลงสินค้าตามปกติ อ้อมใช้เวลาศึกษาพร้อมๆ กับการลงมือทำ งานเลยค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป การลงสินค้าของอ้อมใช้เวลาเป็นเดือนเลยค่ะ ลงวันละ 4-5 ชิ้นต่อวัน อย่างที่บอกค่ะทำงานประจำด้วย กลับถึงห้องก็เหนื่อยมากแล้ว อ้อมขายสินค้าชิ้นแรกได้ช่วงเข้าเดือนที่สองค่ะ
ตอนนั้นยังไม่ได้ทำการตลาดอะไรมากมายเท่าไหร่เพราะเวลาจำกัดจริงๆ เน้นเรื่องการลงสินค้าก่อน เพราะถ้าไม่มีของก็ไม่รู้จะขายอะไร นั่ง Save รูป ลงรายละเอียดสินค้า ทำมือทุกอย่างคนเดียว เป้าหมายตอนนั้นคือต้องมีสินค้าในเว็บฯ ให้ดูเยอะสักหน่อย อาศัยความอดทน เพราะรู้ว่าสิ่งนี้ คือความฝันที่อยากมีอะไรเป็นของตัวเอง และการขายออนไลน์แบบนี้จะนำอะไรมาให้เราก็เลยมุ่งมั่นที่จะทำคะ ชีวิตช่วงนั้น วนอยู่แบบนี้อยู่สักระยะนึง พอสินค้าเริ่มมีเยอะ สินค้าก็เริ่มขายได้บ้าง เริ่มมีโทรเข้ามาบ้าง อย่างว่าเราเพิ่งเริ่มต้องบอกว่าจากจุดเริ่มต้นจริงๆ จากการดึงรูปจากร้านออนไลน์ขายส่งมา มาลงรายละเอียดก็คัดลอกเขามาแหละค่ะ
สำหรับรายละเอียดเรื่องเว็บไซต์ที่ควรมีสำหรับการขายสินค้าออนไลน์ แนะนำว่าควรจะมีดังนี้
- เกี่ยวกับเรา หรือ About us
- ตรวจสอบสถานะการจัดส่งสินค้า ดึงมาจากปาษณีย์ (ไว้จะมาแนะนำอีกทีค่ะ)
- สินค้าที่จะขาย
- เนื้อหาวิธีการสั่งซื้อ
- วิธีการโอนเงิน
- เลขบัญชีเงินฝาก แนะนำให้มีอย่างน้อย 3 ธนาคารเพื่อเป็นตัวเลือกให้ลูกค้า หรือจะทำแบบคิดเงินทางบัตรเครดิตเลยถ้าสามารถทำได้นะคะ แต่ต้องแน่ใจว่าสินค้าเรามีพร้อมสำหรับส่ง
- เงื่อนไขต่าง ๆ ที่ลูกค้าควรอ่าน เช่น เงื่อนไขการซื้อของ, เงื่อนไขการคืนสินค้า อะไรประมาณนี้
- ช่องทางติดต่อเรา
- แผนผังเว็บไซต์ (เรื่องของ SEO)
ต้องใช้เวลาในการสร้างบ้านสักระยะนึงนะคะ ถ้าฐานพร้อมอะไรก็จะง่ายขึ้นค่ะ จากนั้นก็มาต่อด้วยการโปรโมทล่ะ ถือเป็นจุดสำคัญเลย
ต้องทำให้คนรู้ว่าเราทำอะไร และขายสินค้าออนไลน์อะไร
จะขายของก็ต้องเปิดตามตลาดที่มีคนเยอะๆ สิ คือเราเคยชินกับสิ่งนี้มาตลอด แต่!... แล้วเรื่องของการขายของออนไลน์ล่ะ ขายเสื้อผ้าทางเน็ต ต้องทำยังไง เชื่อว่าเป็นคำถามที่หลายๆ คนคงคิด และเจอมาแน่ๆ ในขณะนั้นกระแส Facebook ก็มาแรง อ้อมก็เลยตัดสินใจ มาทำร้านขายของใน Facebook อีกทาง เหมือนเดิมค่ะ เป็นคนเข้าใจอะไรยากกว่าจะผ่านมาได้ เพราะตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ค่ะสิ่งที่อ้อมทำคือ หาซื้อหนังสือพวกเกี่ยวกับการเปิดร้านอะไรพวกนี้ค่ะ ราคาประมาณ 200 บาทไม่เกินนั้น ตอนนั้นยังไม่มีออกมาเยอะเหมือนตอนนี้หรอก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นข้อมูลทางเทคนิคเท่านั้น แต่นั่นก็คือเป้าหมายที่อ้อมอยากได้ เพราะเรื่องเทคนิคเล็ก ๆ น้อยอ้อมไม่คอยรู้ แล้วก็คิดว่าอาจจะมีหลายๆ คนที่ขาดเรื่องนี้เหมือนกัน ไว้อ้อมจะมาแนะนำเรื่องของการเปิดแฟนเพจนะคะ
หลังจากสร้างแฟนเพจสำเร็จ ก็เริ่มลงสินค้า แต่เส้นทางก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะช่วงแรกๆ ไม่ค่อยมีออเดอร์เลย จากที่บอกมาทั้งหมดอ้อมยังไม่พูดถึงเรื่องการโปรโมทมากนัก และเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ หลังจากเปิดแฟนเพจได้สักระยะนึง ก็มีปัญหาตามมาอีกครั้งคือ เรื่องของคนที่จะเข้ามากด like แฟนเพจเรา
ตอนนั้นเงินทุนน้อย ก็ไม่อยากจะโฆษณา ก็เลยใช้วิธีหารูปการแต่งหน้า การทำผม การทำเล็บ มาโพสในแฟนเพจค่ะ พยายามให้เพจเราเป็นที่ต้องการของกลุ่มเป้าหมาย นั่นคือผู้หญิง รวบรวมอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับความสวยความงามมาโพสเพื่อเรียกสาวๆ ให้เข้ามากด like แล้วก็แชร์ผ่านหน้าเพจเราเอง เพื่อให้เพื่อน ๆ มากด like และเพื่อนอาจจะแชร์สิ่งที่เขาสนใจ พยายามอยู่นานค่ะ ช่วงแรก ๆ โพสจน งง ว่าสรุปเพจเราเป็นเพจขายของหรือเพจแชร์รูปความงาม แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะช่วงแรกๆ อ้อมวางเป้าหมายไว้ว่าต้องให้คนมากด like ที่แฟนเพจให้ได้เยอะๆ ก่อน แต่ถ้าใครมีทุนมากพออยากเอาเงินไปแรกเงินก็แนะนำให้ซื้อโฆษณา ให้คนเข้ามากด like หน้าเพจเรา เมื่อคนเข้ามาในหน้าแฟนเพจเรา เขาจะเห็น url เราที่โพสเอาไว้ แล้วกดเข้าไปดูสินค้าในหน้าเว็บฯ ต่อที่สอง หากสนใจก็จะตามมาด้วยการเจรจา และปิดงานขายต่อไป อันนี้ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับศิลปะการคุยของแต่ละท่านแล้วล่ะ แต่อ้อมจะแนะนำในสิ่งที่อาจจะเจอเหมือนที่อ้อมเจอในบทความต่อไปนะคะ
อ้อมใช้เวลาในการเก็บ like แฟนเพจอยู่จนได้ระดับหลัก 1,000 ช่วงนั้นก็เริ่มที่จะมีลูกค้าเข้ามาบ่อยขึ้น เพราะสิ่งที่อ้อมทำทุกๆ วันไม่หยุดเลย คือ นั่งอัพเดตสินค้า, คัดลอกรูปจากเว็บขายส่ง, คัดลอกรายละเอียด, โพสสินค้าที่แฟนเพจ, ค้นหารูปเกี่ยวกับความสวยความงามมาโพสเป็นเนื้อหาพิเศษในหน้าแฟนเพจเพื่อให้ลูกค้าไม่รู้สึกว่าเข้ามาในแฟนเพจ เจอแต่สินค้าอย่างเดียว ทำลูปแบบนี้เกือบๆ 1 ปีเลยค่ะ แต่จะบอกว่ามันคุ้มค่านะคะ เพราะระยะเวลาไม่นานกับการทุ่มเท ตามมาด้วยผลลัพธ์ที่อ้อมคิดว่าพอใจในระดับนึงเลยล่ะ สิ่งที่ได้คือ
- ร้อยยิ้มแห่งความสุขเมื่อเห็นผลลัพธ์
- ประสบการณ์ที่มากขึ้นในหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับการขายสินค้าออนไลน์
- จากที่เป็นคนนำสินค้าจากร้านขายส่งออนไลน์มาขาย ตอนนี้กลายเป็นนำเข้าสินค้ามาขายเองแล้วจ้า ดีใจมากๆ เลย ไว้จะมาแชร์เรื่องนี้อีกทีนะคะรายละเอียดมันเยอะ
 |
| เริ่มมีสินค้าเป็นของตัวเองแล้วเย้ ๆ ๆ |
หลังจากนั้นอ้อมเลยตัดสินใจลาออกจากบริษัทมาทำงานขายของออนไลน์แบบเต็มตัวเลยคะ เพราะรายได้ช่วงนั้นถือว่าเยอะกว่าเงินเดือนประจำก็เลยตัดสินใจโดยไม่รอช้า แต่ของแบบนี้อ้อมต้องบอกว่าให้คิดให้ดีนะคะ ไม่อยากให้บุ่มบ่ามคิดน่ะค่ะ เก็บรวบรวมข้อมูล ทำเป็นประจำ ผลที่ตามมาก็จะเห็นเองคะ
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับเนื้อหาที่ได้รับ สำหรับคนที่กำลังคิดอยากขายของทางเน็ต ทําไงดี หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่หวังผล และผู้ที่มีความฝันนะคะ อ้อมออกมาเขียนบทความนี้ ไม่ได้หวังว่าจะทำให้เกิดความเสียหายต่อใครผู้ใด แค่อยากบอกเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวกับการขายเสื้อผ้าออนไลน์ สำหรับคนที่อยากเข้ามาแต่ไม่มีพื้นฐาน ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาต้องเจอ และผ่านมันไปให้ได้ ค่อย ๆ เก็บทีละนิด ทีละหน่อย ทำทุกวัน
คนส่วนใหญ่มีความฝัน แต่ติดกำแพงของความคิดเข้ามาขวางกั้นอยู่ตลอด อ้อมเป็นคนนึงที่มีความฝันที่อยากจะทำอะไรที่เป็นของตัวเองเหนื่อยก็เหนื่อยแบบคุ้มค่ากับความเหนื่อย และไม่ได้คาดหวังว่าจะให้เนื้อหานี้เป็นแบบหรือบลูปริ้นให้ใครหลายๆ คน เอาไปเดินตาม เพียงแต่อยากให้เป็นกรณีศึกษา ถึงหลักการช่องทางที่ควรจะเป็น และอาจจะเจอในการจะเปิดร้านค้าออนไลน์
ต้องบอกเลยว่าเหนื่อยเหมือนกัน แต่เพราะอ้อมเหนื่อยกับความฝันตัวเอง มันเลยเป็นอะไรที่มีความสุขกว่าการเหนื่อยกับความฝันของคนอื่นน่ะค่ะ(คำพูดเอามาจากคลิป "การลาออกครั้งสุดท้าย" อิอิ) หวังว่าคงเป็นแรงบรรดาลใจให้กับหลาย ๆ คนนะคะ ครั้งหน้าอ้อมจะมาบอกเรื่องการโปรโมทอย่างจริงจัง เพราะที่บอกมาครั้งนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นด้วยแฟจเพจ Facebook เท่านั้น ซึ่งก็ถือว่าได้ผลในระดับที่น่าพอใจอยู่ค่ะ ในบทความนี้อ้อมต้องขอหยุดเท่านี้ก่อนเพราะบทความนี้มีรายละเอียดมากกว่า 2,500 คำเข้าไปแล้ว เดี๋ยวจะตาลายกันซะก่อนเจอกันครั้งหน้าจ้า หากใครต้องการสอบถาม หรือปรึกษาสำหรับการเริ่มต้นยังไงคอมเม้นท์ถามมาได้นะคะ อ้อมยินดีแนะนำจ้า
ส่งท้ายกันหน่อยสำหรับใครที่ไปเจอเว็บฯที่ขายของแพงกว่าบ้าง ถูกกว่าบ้าง ทั้ง ๆ ที่แบบก็อาจจะเหมือนกัน คือสิ่งนี้ต้องบอกว่าสินค้าที่มาส่วนใหญ่จะผลิตมาจากโรงงานที่จีนค่ะ เจ้าของเป็นคนเกาหลีก็จริง เพราะต้นทุนในการผลิตจะถูกกว่า แต่ละโรงงานก็จะมีการผลิตที่ไม่เหมือนกัน เนื้อผ้า และสีอาจจะคล้าย แต่คุณภาพอาจจะด่อยกว่า ดังนั้นการเลือกซื้อเสื้อผ้าอาจจะต้องดูที่ไม่ถูกมาก สอบถามรายละเอียดเรื่องเนื้อผ้าให้ดี เว้นแต่จะเห็นว่าลดกระหน่ำก็เข้าไปยำกันได้เลย อิอิ..ชอบ!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น