แบบไหนดี จะนำเข้าสินค้า หรือจะเป็นตัวแทนจำหน่าย บอกเล่าจากประสบการณ์จริง

บทความเกี่ยวกับการขายของสำหรับการเป็นแม่ค้ามือใหม่อ้อมจะทยอยออกมาเรื่อยๆ นะคะ ช่วงนี้ต้องปรับหน้าเว็บฯ www.asiastreetfashion.com เยอะเหมือนกัน ทำไมต้องปรับล่ะ อันนี้ต้องปรับตัวขนาดใหญ่เลยสำหรับแม่ค้าพ่อขายบนโลกออนไลน์ ที่ต้องรับเทคโนโลยีใหม่เรื่อง 3G หรือ 4G เพราะแนวโน้มคนใช้อุปกรณ์เหล่านี้เยอะขึ้นค่ะ นอกเรื่องแล้ว เอาล่ะไว้อ้อมจะมาแชร์ในบทความต่อไปก็แล้วกันเนาะ
อ้อมขอไม่เกริ่นนำมากกว่านี้นะคะ ขอเข้าเรื่องเลยใจร้อน สำหรับร้านขายส่ง หรือนำเข้าสินค้า ถ้าเป็นเมื่องไทย คงหนีไม่พ้นย่านประตูน้ำ คลองถม จตุจักรประมาณนี้ค่ะ อันนี้เห็นสินค้าจริง มีคำแนะนำจับต้องได้  แต่ถ้าเป็นสินค้าจากเมืองนอกช่วงแรกๆ  เริ่มแรกเลยอ้อมไปหามาจาก Google ค่ะ โดยพิมพ์ข้อความที่ต้องการค้นหา เช่น “รับนำเข้าสินค้า” เป็นต้น จะขึ้นมาเต็มเลยค่ะ อันนี้ในมุมของอ้อมที่อ้อมทำมานะคะ
แบบไหนดี จะนำเข้าสินค้า หรือจะเป็นตัวแทนจำหน่าย บอกเล่าจากประสบการณ์จริง
นำเข้าสินค้า หรือเป็นตัวแทนจำหน่าย

ข้อดี-ข้อเสียนำเข้าสินค้าแชร์จากประสบการณ์จ้า

พอได้เว็บฯแล้ว ก็เก็บไว้ก่อนหาไปอีกเรื่อย ๆ เลยค่ะให้ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย หลังจากที่อ้อมได้เว็บฯที่น่าจะใช้ได้แล้ว อ้อมก็เข้าไปดูเรื่องความน่าเชื่อถือของผู้นำเข้าสินค้าในเว็บฯที่เราหาไว้  โดยให้ดูที่ประวัติการจัดส่งสินค้าหรือ เรื่องการรีวิวสินค้าในเว็บฯของแต่ละเจ้าจะมีอยู่ หากมีการจัดส่งเป็นประจำก็ถือว่าใช้ได้ค่ะ, ลองดูว่ามีคำวิจารณ์ในแง่ลบไหมประมาณนี้ ส่วนใหญ่เว็บฯขายส่ง หรือเว็บนำเข้าสินค้าที่น่าเชื่อถือเขาจะแสดงรายการตรงนี้

เมื่อได้รายชื่อเว็บฯแล้ว ติดต่อเข้าไปสอบถามข้อมูลรวมถึงรายชื่อเว็บฯนอกที่เราต้องการสั่งสินค้า อ้อมแนะนำเป็นเว็บนี้นะคะ taobao สินค้าเยอะ เว็บมีความน่าเชื่อถือจริงๆ มีเยอะกว่านี้ไว้จะมาแนะนำ อีกอย่างกรณีนี้เกิดขึ้นกบัอ้อมมาแล้วอยากให้เข้าไปอ่านบทความนี้ด้วยค่ะ จะได้คัดกรองเว็บฯนำเข้าได้ถูกและต้องเตรียมใจเผื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ลิงค์ดูบทความ มือใหม่ใจเร็วอยากรับตัวแทนจำหน่าย ซื้อมาขายไปง่ายนิดเดียว!!  ย้ำนะคะควรอ่านจริงๆจะได้ไม่เจ็บเหมือนอ้อมจ้า

สำหรับตัวสินค้าก็จะมีให้เราเลือกเยอะมากๆ ค่ะ ต้องรู้ว่าว่าตัวเองจะขายอะไร (ลองกลับไปอ่านบทความที่แล้วเรื่อง อยากขายของออนไลน์ทำไง เคล็ดลับ-แนวทาง-บอกเล่าให้เห็นภาพจากประสบการณ์จริง นะคะ) แต่วิธีการมันมีความเสี่ยง เพราะคุณภาพแต่ละร้านจะต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าผู้นำเข้าสินค้า เขาไปสั่งจากเว็บไหน สินค้านำเข้าจากประเทศไหน เป็นต้น จริงอยู่เรานำเข้าสินค้าจาก taobao แต่โรงงานที่ผลิตอาจจะคนละที่ก็เป็นได้ อันนี้อ้อมเจอมากะตัวเองค่ะ สินค้าสั่ง 2 รอบมาไม่เหมือนกันก็มี ช่วงแรก ๆ เครียดมากๆ ค่ะกว่าจะรู้

ที่เห็นกันเยอะมากๆ คือ ผู้ที่รับนำเข้าจะให้ชื่อเว็บไซต์มาให้เราเลือกสินค้าเอง หลังจากเลือกสินค้าที่จะขายได้แล้ว ก็ส่งรายชื่อสินค้าไปให้เว็บฯที่รับนำเข้าประมาณนี้ แต่วิธีนี้ก็ยังเสี่ยงอยู่ค่ะ ก็เหมือนเรานำเข้าเองค่ะ  เพียงแต่มีคนกลางติดต่อให้ คือเราจะไม่เห็นสินค้าจริงๆ จนกว่าสินค้าจะมาถึงมือเรา(เว้นแต่มีทุนบินไปดูเองเลยก็จะดี) อ้อมเองก็เจอปัญหาเยอะเหมือนกันก่อนหน้านี้สินค้ามีตำหนิ, สินค้าใช้งานไม่ได้, ต้องนอนทุนไปเยอะเหมือนกัน แต่สิ่งที่ได้คือประสบการณ์จริงๆ ที่แชร์มาให้ฟังนี่ล่ะค่ะ

แต่ข้อดีก็มีนะคะ วิธีนำเข้าแบบนี้จะถูกกว่าที่เรานำเข้าเอง เพราะสินค้าจะถูกส่งมาทางเรือในตู้คอนเทนเนอร์ เป็นการแชร์ค่าใช้จ่ายของการวางของกับเจ้าอื่น โดยจะใช้เวลา 20-25 วัน ดีกว่าเสียเองคนเดียว

สำหรับพวกค่าใช้จ่ายเรื่องการนำเข้า ส่วนใหญ่เว็บไซต์ตัวแทนจะคิดถัวเฉลี่ยเอาไว้หมดแล้ว ส่วนเรื่องสินค้าที่จะสัั่งและคุณภาพไว้อ้อมรวบรวมเว็บที่น่าเชื่อถือก่อน แล้วจะมาแชร์อีกที 

อีกวิธีหนึ่งคือ ขอสั่งของรวมกับแม่ค้าที่เราติดต่อเลย อันนี้ต้องคุยกับแม่ค้าเองเลยนะคะ วิธีนี้ก็ใช้ได้ค่ะ ข้อสเสียก็พูดไปแล้ว ไม่เห็นสินค้าจนกว่าจะมาถึงเมืองไทย ข้อดีคือ ยิ่งสั่งเยอะต้นทุนราคาก็จะถูกลงค่ะ

ส่วนอีกประเภทหนึ่ง อันนี้อ้อมลองไปศึกษามาแต่ยังไม่ลองทำนะคะ เพราะทุนยังไม่หนาพอ คือเหมือนจัดทัวร์พาไปดูโรงงานเลย งานนี้คงได้เที่ยวด้วย ได้ดูงานด้วย ค่าใช้จ่ายก็ขึ้นอยู่กับแต่ละที่ โดยหลักการคือเขาจะพาเราไปต่างประเทศ(ประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่) จะมีไกด์นำไปอีกที พาชมโรงงานที่เราเลือกว่าจะไปไหน สินค้าแบบไหน พร้อมกับมีคนที่จะติดต่อเวลาจะสั่งของ  บางคนก็สามารถพูดไทยได้ บางคนก็ต้องจีนล้วนๆ  และอังกฤษก็มี สามารถเลือกได้ค่ะ วิธีนี้ยังไม่ลงรายละเอียดมากเพราะยังไม่เคยเหมือนกัน สำหรับท่านใดที่เคย หรือมีประสบการณ์รบกวนแชร์ให้ฟังด้วยนะคะ

ตัวแทนจำหน่ายข้อดีข้อเสียแชร์จากประสบการณ์จ้า

สำหรับมือใหม่ที่ต้องการนำเข้าจริงๆ แนะนำให้เอาของจากร้านที่รับตัวแทนจำหน่าย มาขายเอากำไรไปก่อนค่ะ เก็บประสบการณ์ เก็บสถิติสินค้า แนวทางพฤติกรรมลูกค้า มีหลายเว็บฯ เหมือนกัน พิมพ์ใน Google เหมือนเดิมเลยค่ะ "รับตัวแทนจำหน่าย"หรือไม่รู้จะเอาจากที่ไหน ยังไง เอาแบบสนิทใจก็เว็บฯอ้อมก็รับค่ะ แต่ขอจำกัดจำนวนนะคะ เพราะของสั่งมาจำนวนยังไม่มาก สอบถามกันได้จ้า แอบมีข้อเสนอซะงั้น โทษทีค่ะ! ส่วนเรื่องจะนำเข้าสินค้าเอง ยังไม่อยากแนะนำเพราะเสี่ยงเหมือนกัน ของอ้อมกว่าจะได้ขนาดนี้ เจ็บมาเยอะค่ะ ทั้งเรื่องภาษี เรื่องการขนส่ง เรื่องสินค้าชำรุด ถ้าทุนยังไม่หนาพออย่าพึ่งขนาดนั้นจะดีกว่า

ในบทความที่ออกก่อนหน้านี้ที่แชร์ไป เพราะคนที่อยากขายของมีอยู่ แต่ไม่รู้จะเริ่มไง การเป็นตัวแทนจำหน่ายก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีเปรียบเหมือนเราจะเป็นเจ้าของกิจการ ต้องเรียนรู้ตั้งแต่ระดับลูกจ้าง เราก็ต้องรู้กระบวนการสินค้าที่ต้องการขาย ที่มาที่ไป เก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆ จนทุนมีพอประสบการณ์เริ่มพร้อม  ค่อยก้าวต่อไปค่ะ ค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่า

แต่อย่าเพิ่งนอนใจไปค่ะเพราะการเป็นตัวแทนจำหน่ายไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อด่อยนะคะ มันก็มีเหมือนกัน ส่วนใหญ่เว็บฯที่รับตัวแทนจำหน่ายก็มักจะบอกในแง่ ไม่มีความเสี่ยง ไม่ต้องสต๊อคของ การจัดส่งสินค้าต้นสังกัดทำให้หมด อันนี้คือความจริงค่ะ ไม่เถียง

แต่เอาเข้าจริงๆ เวลาเราเป็นตัวแทนขายสินค้า สิ่งที่เราต้องทำก็เหมือนกับเรามีสินค้าจริงๆ ในมือเพียงแต่ว่า สต๊อคสินค้าไม่ได้อยู่กับเรา เราจะเห็นเฉพาะรูปหรือภาพรีวีวสินค้า
โดยขั้นตอนการทำงานจะมีดังนี้ค่ะ คือ
นำสินค้าไปโปรโมท-->> เรารับออเดอร์-->>เช็คสินค้าที่หน้าเว็บต้นสังกัดว่ามีของอยู่หรือไม่ -- >>รับเงินลูกค้า -->> โอนเงินค่าสินค้าหลังจากหักกำไร-->แจ้งที่อยู่จัดส่ง ผู้ฝาก-ผู้รับ--> รอรับหมายเลขการจัดส่ง-->โพสแจ้งให้ลูกค้าทราบ

จากขั้นตอนทั้งหมดจะเห็นว่าเราจะไม่เห็นตัวสินค้าเลย นอกจากว่าจะให้แม่ค้าถ่ายรูปมาให้ดูซึ่งเอาเข้าจริงๆ แต่ละเจ้าก็คงไม่ทำแบบนั้น(มองในแง่ความเป็นจริง) เว้นแต่จะเป็นเจ้าใหญ่จริงๆ มีทีมงานเพราะขั้นตอนรายละเอียดจะเยอะมากๆ ลองมองในมุมมองที่ว่าร้านนั้นมีตัวแทนจำหน่าย 20 คน หากครึ่งนึงต้องการถ่ายรูปให้ดู งานนี้แม่ค้าไม่ต้องทำอะไรกันเลยประมาณนั้น การจัดการจะคนละแบบกับการเป็นเจ้าของร้านเอง  งานนี้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจในระดับนึงเลยล่ะ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าสินค้าดีไม่ดี แรกๆ อ้อมต้องบอกว่า ถามจากแม่ค้ากันเลยว่าสินค้า OK ใหม่พี่ และโทรถามลูกค้าว่าชอบสินค้าไหม ดูที่ในเว็บบอร์ด ดูการรีวิวสินค้าในเว็บฯ

อีกแง่มุมหนึ่งที่ต้องรู้คือ สินค้าแต่ละชิ้นที่เรานำไปโปรโมท ใช่ว่าจะมีเพียงเราคนเดียวที่นำไปโปรโมท บางครั้งการที่เราขายได้ ตัวสินค้าอาจจะหมดไปแล้ว เพราะมีคนนำสินค้าไปโปรโมทเหมือนกัน  ตรงนี้คงต้องวัดกันที่ตัวเลือกการส่งเสริมของการตลาดแล้วค่ะ อาจจะมีโปรโมชั่นของแถม ส่วนลดเพื่อจะให้สู้กับเจ้าอื่นได้

เชื่อว่าคงมีคำถามในใจหลายๆ คนแล้วค่ะว่า โห! ลำบากจังเลย ยากจังเลย ส่วนนี้อ้อมบอกไปตลอดบทความนี้ และพยายามสื่อให้เห็นคือ  การเก็บประสบการณ์, เก็บสถิติสินค้า, แนวทางพฤติกรรมลูกค้า จริงอยู่ว่าเราอาจจะมีออเดอร์แต่ขายสินค้าไม่ได้ เพราะสินค้าหมดแล้ว แต่อย่าลืมเป้าหมายที่เราทำคือการเก็บประสบการณ์เพื่อก้าวไปสู่การเป็นเจ้าของร้าน และอีกอย่างเมื่อเปรียบเทียบสิ่งที่เสียไปก็ไม่ได้มาก เมื่อเทียบกับการนำเข้าสินค้าเองซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะกว่ามาก

แต่ถ้าพอมีทุน ก็เอาจากแม่ค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่าย รับไปเป็นสต๊อคสินค้าของตัวเองเลยก็ได้ค่ะ อันนี้เห็นสินค้า แต่ข้อด่อยก็มีอีกค่ะ คือเราต้องจัดการเรื่องการจัดส่งสินค้าเองทั้งหมด ซึ่งก็จะเป็นต้นทุนที่เราต้องเสียไป เพิ่มเติมจากต้นทุนค่าสินค้าที่เราต้องสต๊อค ระยะเวลาในการจัดการที่ต้องเสียไป หากทำงานประจำอยู่ก็จะเหนื่อยมาก ๆ ค่ะ

เรื่องเว็บฯ ขายสินค้าอันนี้ขอแถม

แรก ๆ ถ้ามีทุนก็ลงทุนเช่าโฮส ซื้อโดเมน แล้วนำพวกเว็บสำเร็จรูปมาลงได้เลย ของอ้อมใช้เป็น  opencart ค่ะ ตัวนี้ใช้งานได้ดีเลยล่ะ ถ้าเป็น Develop ก็ต่อยอดได้ง่าย(โปรแกรมเมอร์เขาบอกมาค่ะ)
ข้อเสีย คือ ค่อนข้างยุ่งยากเรื่องการจัดการ  การปรับแต่งธีมที่แบบว่าอยากได้ในแบบของเราเอง ต้องปรับโน้น แต่งนี่, ระบบ Plugin บางอย่างก็ต้องซื้อ ไม่มีแจกฟรี แต่ที่มีให้มา ก็ใช้งานได้ดีอยู่นะคะ
ข้อดี คือ ก็มันคือของเรา แบบนี้ยิ่งนานยิ่งดี เพราะเป็นแบรนด์เราการจัดการอิสระ

กรณีไม่อยากจะยุ่งยาก แนะนำให้ใช้เว็บฯค้าขายที่เขาให้บริการอยู่เช่น Weloveshopping เป็นต้น แม้จะมีเสียงบ่นออกมาหนาหูเรื่องระบบที่ยุ่งยากต้องซื้อเป็นพรีเมียมไปเลยถึงดี แต่ข้อดีก็ยังมีอยู่เยอะค่ะ หรือจะเป็นของ Sanook ก็มีค่ะ แต่ต้องมีสินค้าพร้อมส่งนะคะ เพราะของเขาระบบหลังบ้าน และระบบคิดเงินดีเยี่ยมเลยล่ะ ถ้าของพร้อมส่งก็น่าสนอยู่ จุดที่ต้องตัดสินใจนิดหน่อยคือการหักเปอร์เซ็นของการขายสินค้าที่ต้องศึกษารายละเอียดดีๆ ว่ามีไหม ถ้ามีมากน้อยแค่ไหนประมาณนี้ค่ะ
ถ้าเป็นเจ้าอื่นนอกเหนือจากนี้ สามารถแนะนำกันมาได้ อันนี้อ้อมคงแนะนำไม่ได้เพราะไม่เคยใช้งานแหะ ๆ

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับข้อดี และข้อเสียของการนำเข้าสินค้า หรือจะเป็นตัวแทนจำหน่าย เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงคิดอยู่ในใจ จะนำเข้าดีไหม หรือจะเป็นตัวแทนจำหน่ายดี โดยส่วนตัวอ้อมเริ่มจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายค่ะแบบทุนน้อย แล้วค่อยๆ ก้าวไปทีละขั้น และที่จะบอกสำหรับทั้งสองแบบ มันคือธุรกิจค่ะ มีความเสี่ยง ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ศึกษา อย่าใจร้อนนะคะ สู้ ๆ จ้า

แบบไหนดี จะนำเข้าสินค้า หรือจะเป็นตัวแทนจำหน่าย บอกเล่าจากประสบการณ์จริง

บทความใกล้เคียง

อยากขายของออนไลน์ทำไง เคล็ดลับ-แนวทาง-บอกเล่าให้เห็นภาพจากประสบการณ์จริง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิธีเปลี่ยนตำแหน่งจัดเก็บโฟลเดอร์ของ GOOGLE DRIVE ในคอมพิวเตอร์

ให้ไอมาโครส่งข้อความ facebook ถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายคุณ

พรีออเดอร์คืออะไร ?